13 วิธีเก็บเงินดีๆ อย ากมีเงินเก็บต้องทำตาม
เรื่องของการเงินในปัจจุบันมีกระแสความสนใจในเรื่องของการเก็บเงินออมและการสะสมทรัพย์สินเอาไว้เพื่ออนาคต เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น การเคลียร์เรื่องเงินและการวางแผนการใช้เงิน ตลอดจนถึงการบันทึกรายรับรายจ่าย ควรทำอย่ างไรให้ควบคุมการใช้เงินของตัวเองได้ เพื่อให้หมดหนี้และมีเงินเก็บเพื่อตัวเองสำหรับวัยเกษียณ
1 วางแผนการออมเงินให้เหมาะกับตัวเอง
การออมเงินนั้นไม่ควรเอาเงินที่ เหลือใช้ มาออม แต่ให้เราแบ่งเงินมาออมเอาไว้ตั้งแต่ได้รับเงินมาหรือวันที่เงินเดือนออก ให้ทำการกันเงินเอาไว้เพื่อเป็นเงินสำหรับออมโดยเฉพาะ โดยสามารถตั้งได้ว่าจะออมเดือนละหรือครั้งละเท่าไหร่ให้คำนวณจาก รายได้-เงินออม = รายจ่าย นั่นหมายความว่าออมก่อนใช้นั่นเอง
2 ทำบัญทึกรายรับรายจ่ายเสมอ
จากผลการสำรวจเมื่อปี 60 มีการเผยว่าคนไ ท ยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ทราบที่มาอยู่สูงถึง 72% นั่นแปลว่า คนหนึ่งคนมีรายจ่ายเฉลี่ยอาทิตย์ละ 1500 บาท จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากไหน หรือ จำไม่ได้ว่าหมดไปกับการซื้ออะไรบ้างสูงถึง 1200 บาทเลยทีเดียว ซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นการใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่ไม่จำเป็นและสามารถเลือกที่จะไม่ใช้ก็ได้
เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงมากสำหรับช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ การทำบันทึกเอาไว้จึงมีความสำคัญและต้องทำเอาไว้เพื่อจะได้ควบคุมรายจ่ายสุรุ่ยสุร่ายได้
3 แบ่งประเภทรายจ่าย
ให้กำหนดเอาไว้ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ในแต่ละเดือน โดยให้แบ่งค่าใช้จ่ายต่างๆออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมันในการเดินทาง ค่าท่องเที่ยว เป็นต้น
โดยอาจกำหนดหมวดหมู่รายจ่ายออกมาให้ชัดเจนว่าจะมีการใช้เงินกับค่าอะไรบ้าง โดยหนึ่งในนั้นจะต้องเป็นการเก็บแบ่งเก็บเป็นเงินออมเอาไว้ด้วย อาจกำหนดล่วงหน้าเอาไว้สัก 3 เดือน หรือทำทุกเดือนก็ได้ วิธีนี้จะทำให้รู้ว่าเราสามารถใช้เงินในมือได้เท่าไหร่จึงจะไม่เป็นหนี้ หากเงินไม่พอใช้ จะได้คิดหาทางประหยัดหรือเปลี่ยนทางเลือกในการใช้เงิน ช่วยควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้เงินอ ย่ างขาดสติได้
4 หาวิธีลดรายจ่ายประจำที่หนักๆ
ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอันดับหนึ่งคือค่ากินอยู่ ให้ลองกำหนดว่าในแต่ละวันหรือสัปดาห์เราจะใช้เงินวันละเท่าใด ก็ให้พกเงินไว้เท่านั้น ไม่พกเงินสดในกระเป๋าเยอะๆเพื่อป้องกันการใช้จ่ายและยังช่วยให้ปลอดภั ยจากการทำหายหรือโดนขโมยได้ด้วย
เมื่อคำนวณรายจ่ายรายวันได้แล้ว ก็ลองใช้เงินตามจำนวนนั้นเช่นวันละ 200 บาท เราจะใช้เงินอย่ างไรให้น้อยที่สุด เช่น ไม่ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มต่างๆและเปลี่ยนเป็นการดื่มน้ำเปล่าแทน หรือการห่อข้าวไปทานที่ทำงานหรือที่โรงเรียนก็ช่วยลดรายจ่ายได้ ซึ่ง 200 บาทนี้ หากเหลือก็ยังสามารถเก็บไว้ใช้ในวันต่อไปหรือหยอดกระปุกเป็นเงินออมอีกทางหนึ่งก็ได้
5 ลดภาระการเงินตัวเองด้วยการซื้อแต่ของจำเป็น
ผู้หญิงส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานนอกบ้านมักมีเปอร์เซ็นต์ในการใช้จ่ายเงินกับเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าค่อนข้างสูง เพราะต้องใช้ทุกวันแต่ความจริงแล้ว เสื้อผ้าหรือรองเท้านั้นไม่จำเป็นต้องมีเยอะมากจนเกินไป ให้พย า ย ามซื้อของฟุ่มเฟือยให้น้อยลง และหากสามารถเก็บข้าวของต่างๆเอาไว้ขายต่อเป็นสินค้ามือสองได้ ก็จะสามารถเก็บเป็นเงินออม นับว่าเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งที่ได้รับเข้ามาด้วย อาจตั้งกฎให้ตัวเองว่า หากยังไม่ได้ขายเสื้อผ้าเซ็ตเดิมก็จะไม่ซื้อเสื้อผ้าเซ็ตใหม่ เป็นต้น
6 อ ย่ า เป็นนักสะสม
ความสุขของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนชอบที่จะสะสมสิ่งของ ขอให้เลือกเพียงข้าวของที่ต้องใช้จริงๆเท่านั้นจะดีกว่า เพื่อสมดุลทางการเงินและความมั่นคงเรื่องการเงินของเรา การซื้อข้าวของเอาไว้เพื่อสะสมอาจเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นสำหรับบางคน หากจะสะสมอะไรสักอ ย่ า ง น่าจะเป็นการสะสมทองหรือทำการออมทอง เพื่อเก็บเอาไว้เป็นเงินออมต่อไปได้ เป็นทั้งเครื่องประดับและการเก็บสะสมที่ดีที่สุด เพราะทองมีค่าอยู่ตลอดทุกช่วงเวลาและยิ่งเวลาผ่านไปราคาเงินก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ การสะสมทองจึงเป็นสิ่งที่ควรสะสมมากที่สุด
7 มีบัญชีธนาคารมากกว่าหนึ่ง
ในกรณีนี้คือควรเปิดบัญชีสำหรับการฝากประจำเอาไว้ด้วยเพื่อสร้างวินัยให้กับตัวเอง โดยอาจเลือกเปิดกับธนาคารใดก็ได้ที่ได้รับด อ กเ บี้ ย หรือค่าตอบแทนดีกว่าการเก็บเงินเอาไว้กับตัว เวลาเงินเดือนออกก็ให้ตั้งโปรแกรมเตือนเอาเงินไปเข้าบัญชีเงินฝากเอาไว้เลย ปลอดภั ยที่สุดแถมยังได้ด อ กเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาอีกด้วย
8 ประหยัดด้วยการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ
รายจ่ายค่าไฟของแต่ละครอบครัวนั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องจ่ายกันทุกเดือน หากบ้านใครมีตู้เย็นเก่าที่ไม่สามารถเก็บความเย็นได้ หรือแอร์ที่เก่า สิ่งของเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้บิลค่าไฟสูงขึ้นและสูงขึ้น ควรเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพดีและใช้งานได้ดีโดยที่ไม่กินไฟ การประหยัดไฟและน้ำ ก็ช่วยให้ค่าใช้จ่ายเรื่องบิลค่าน้ำค่าไฟลดลงได้เหมือนกัน
9 ห ยุ ด วง จรบัตรเครดิต
เชื่อว่าหลายคนอาจมีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ และแต่ละใบก็อาจวงเงินเต็มไปเรียบร้อยจนเราต้องมานั่งเป็นหนี้สินตัวเอง เพราะการใช้บิตรเครดิตนั้น เป็นการใช้เงินที่เราไม่มี และจะต้องหาเงินมาคืนให้กับธนาคารบวกกับด อ ก เบี้ยในการยืมเงินในอนาคตมาใช้ก่อน บางคนเป็นหนี้สินหลายล้านก็เพราะบัตรเครดิต หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถควบคุมการใช้เงินของตัวเองได้ ให้บอกยกเลิก หรือ อ ย่ าทำบัตรเครดิตเลยจะดีที่สุด
10 ไม่ซื้อของง่ายเกินไป
เทคนิคการซื้อของที่จำเป็นสำหรับเราจริงๆคือ เมื่อเราหมายตาสิ่งใดเอาไว้ อ ย่ าเพิ่งควักกระเป๋าเพื่อซื้อเลยทันที ให้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปก่อนอ ย่ างน้อย 1 วัน หากเรายังรู้สึกว่าของชิ้นนั้นจำเป็นต้องใช้และจะเกิดประโยชน์โดยรวม จึงค่อยซื้อ อ ย่ าซื้อของในทันทีที่เห็นหรือใช้เงินไปตามอารมณ์อ ย่ า งเด็ดขาด
11 ลดค่าเดินทาง
สำหรับบางคนที่อาจขับรถไปกลับในเส้นทางไม่ไกลมาก ลองเลือกที่จะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะดูบ้าง เช่นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์ หากไม่ไกลมากและสะดวก ก็จะช่วยลดค่าน้ำมันรถได้
12 หาความสุขง่ายๆ
ลองมองหาความบันเทิงที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน เช่น การคุยเล่นกับเพื่อนหรือครอบครัว เล่นกับสัตว์เลี้ยง อ่านหนังสือ หรือเล่นบอร์ดเกม กิจกรรมเวลาว่างที่ไม่ต้องใช้เงิน ยิ่งคุณมีความสุขได้ง่ายเท่าไหร่คุณก็ไม่จำเป็นต้องออกไปชอปปิ้งเพื่อแก้เครียดหรือระบายอารมณ์ ช่วยเซฟเงินไปได้อีกหลายร้อยพันบาทเลย
13 มีวินัย
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถออมเงินได้โดยเฉพาะในช่วงสภาะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ในทางกลับกัน ยิ่งในสภาวะแบบนี้ เรากลับยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีเงินออมเอาไว้เผื่ออนาคต การฝึกวินัยในการเงินนั้นสามารถทำได้ เพียงแต่อดทนและทำเป็นประจำอ ย่ า งต่อเนื่องอ ย่ างน้อย 21 วัน ก็จะช่วยให้เกิดนิสัยรักการออมเงินได้
การนำพาตัวเองไปอยู่ในสังคมเพื่อนที่ไม่ใช้จ่ายสิ้นเปลืองก็เป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับผู้คนยุคใหม่ ที่หลายๆคนต้องเสียเงินไปกับสิ่งที่เรียกว่า ภาษีสังคม ไม่ว่าจะเป็นการไปกินเลี้ยงกับเพื่อนที่ทำงานหรือการซื้อข้าวของเครื่องใช้เพื่อต้องการจะทัดเทียมกับเพื่อนในบริษัท เป็นต้น
เรียบเรียงโดย krustory