Home ข่าวทั่วไป เก็บผักผลไม้ให้ถูกวิธี ยืดอ า ยุให้สดนานเป็นเดือน ด้วย 3 เคล็ดลับง่ายๆ

เก็บผักผลไม้ให้ถูกวิธี ยืดอ า ยุให้สดนานเป็นเดือน ด้วย 3 เคล็ดลับง่ายๆ

เก็บผักผลไม้ให้ถูกวิธี ยืดอ า ยุให้สดนานเป็นเดือน ด้วย 3 เคล็ดลับง่ายๆ

เก็บผักผลไม้ให้ถูกวิธี ยืดอ า ยุให้สดนานเป็นเดือน ด้วย 3 เคล็ดลับง่ายๆ

อาหารจำพวกผักผลไม้ที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้ นอกจากรสชาติอร่อยแล้วยังให้ส า รอาหารต่อร่างกายมากมาย การทานผักผลไม้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น และจะทำให้ผิวพรรณสวยขึ้นได้ด้วย วันนี้เราเอาเคล็ดวิธีการเก็บผักผลไม้ให้สดใหม่อยู่ได้นานกว่าเดิมมาฝากแม่บ้านพ่อบ้านกัน

การเก็บผักที่ถูกต้องนั้น ต้องแยกประเภทออกให้ชัดเจนไม่นำมารวมกันเพราะจะทำให้ผักเ น่ าเ สียง่ายขึ้น

การล้างผัก

1 หลังจากซื้อผักมาสดๆจะต้องล้างทำความสะอาดอย่ างดีก่อนนำไปปรุงแต่ถ้ายังไม่ได้นำมาปรุงอาหารในวันนั้นทันที ให้ล้างผักเช่นกัน โดยล้างให้สะอาด

2 สะเด็ดน้ำแล้วจึงนำเก็บเข้าตู้เย็นในช่องเก็บผัก

3 การล้างผักด้วยวิธีแช่น้ำไว้จะทำให้วิตามินละลายออกไปกับน้ำที่แช่ จึงควรล้างแบบให้น้ำไหลผ่ านจะดีที่สุด

การแบ่งประเภท

1 ผักที่เป็นหัว ได้แก่ แครอท หัวผักกาด กะหล่ำปลี ให้จัดการจัดใบออกให้หมดแล้วนำเก็บ ส่วนผักที่มีเปลือกแข็งและหนา เช่น ฟักทอง ฟัก มันฝรั่ง ไม่ต้องล้างให้เก็บได้เลยโดยควรอยู่ในตำแหน่งที่มีการระบายอาการศดี หากแช่ที่ความเย็น 55-65 องศาฟาเรนไฮต์ จะทำให้เก็บได้นานขึ้นโดยไม่เน่าเสีย

2 ผักใบเขียวที่เน่าเสียง่าย เช่น ผักชี ผักบุ้ง ผักกาด หรือผักที่สามารถเก็บได้นานขึ้นนิดนึงอย่ างผักคะน้า มะเขือเทศ แม้จะแช่ตู้เย็นก็ไม่สามารถช่วยให้สดได้ตลอด สำหรับการเก็บให้ล้างให้สะอาดผึ่งลมให้แห้งแล้วเก็บใส่ถุงหรือภาชนะที่แห้งสะอาดและปิดฝาได้ โดยมากจะมีอายุการเก็บนานประมาณ 4- 5 วัน ก็จะเริ่มแห้งเสียจนใช้ไม่ได้

3 ให้แยกช่องผักที่เสียง่ายกับผักที่เก็บไว้ได้นานกว่าออกจากกัน เพราะจะทำให้เน่าเสียเร็ว และต้องแยกผักกับผลไม้จากกันด้วย เพราะผลไม้ที่สุกจะทำการปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาเพื่อย่อยสลายตัวเอง ซึ่งจะทำให้ผักที่อยู่ด้วยกันเน่าเสียจนไม่สามารถใช้ได้ไวขึ้น การแยกประเภทผักออกจากกันจะช่วยให้ผักสดและต่ออายุความสดให้กับผักได้หลายวัน

การล้างผักที่ถูกต้องลดเคมีที่ปนเปื้อนมากับผัก

1 การใช้ล้างผัก นำโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 20 ลิตร นำผักลงแช่ประมาณ 15 นาที จากนั้นนำขึ้นมาล้างน้ำสะอาดซ้ำอีก 3-4 น้ำ จะช่วยลดส า ร เ ค มีตกค้างได้มากที่สุดคือ 90-05%

2 การใช้น้ำส้มสายชูล้างผัก น้ำส้มสายชูที่มีกรด 5% นำมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 หรือประมาณ น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงกับน้ำ 10 ถ้วยตวง ผสมกันแล้วนำผักลงแช่นาน 10-15 นาที จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่าซ้ำจนสะอาดดี โดยวิธีนี้จะช่วยลดส า รตกค้างได้ประมาณ 60-84%

3 การล้างแบบน้ำไหลผ่ า น ให้เราทำการเด็ดผักออกแล้วนำใส่ตะแกรงตาห่างๆ ใช้มือช่วยล้างและพลิกกลับด้านผักไปมาให้สะอาด ใช้เวลาล้างผักนาน 2 นาที จะช่วยลดส า รตกค้างได้ประมาณ 25-63%

4 การล้างผักแบบแช่น้ำ เริ่มจากล้างผักด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดก่อน 1 รอบ แล้วเด็ดผักใบออกมานำแช่ลงกะละมัง ทิ้งไว้ 15 นาที จะช่วยลดส า รตกค้างได้ 7-33%

5 การล้างผักด้วยด่างทับทิม วิธีนี้ให้เตรียมด่างทับทิม 20-30 เกล็ด ใช้ผสมกับน้ำสะอาด 4 ลิตร นำผักลงแช่ทิ้งไว้ 10 นาที จึงนำขึ้นมาล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดอีกครั้ง วิธีนี้ช่วยล้างส า ร ตกค้างได้ประมาณ 35-43%

การทานผักผลไม้นั้นเป็นการทานอาหารที่ถูกหลักเพราะร่างกายต้องได้รับวิตามินและส า รอาหารสำคัญในผักผลไม้หลายหลากเพื่อทำให้ระบบในร่างกายสามารถทำงานได้อ ย่ างเต็มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน และการล้างผักให้สะอาดโดยไม่มีส า รตกค้างก็เป็นสิ่งสำคัญ เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญในการทำอาหารเลยทีเดียว

เรียบเรียงโดย krustory

Load More Related Articles
Load More By Krustory-R
Load More In ข่าวทั่วไป

Check Also

ขอบยางในตู้เย็น “ขึ้นรา” ติดแน่น ขัดไม่ออก แค่ทำตามนี่สะอาดเอี่ยม

ขอบย า งในตู้เย็น “ขึ้นรา” ติดแน่น ขัดไม่ออ … …