คน 5 ประเภทนี้ หากไม่ปรับตัว ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะตกงานและอยู่ยาก
หลายอย่ างเราก็เห็นกันแล้วว่าโดนแทนที่ไปเรียบร้อย ยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล ยุคที่หลายหน่วยงาน หลายบริษัทนั้นหันมาใช้หุ่นยนต์แทนคนกันเยอะแล้ว เพราะว่าหุ่นยนต์ไม่เคยขอลาหยุดและไม่มีความแปรผันของอารมณ์ด้วย สำหรับคนที่อยู่ใน 5 ประเภทนี้เสี่ยงมากที่จะตกงานหากยังไม่ยอมปรับตัวให้ทันโลก ไม่ยอมหางานหลายด้านสำรองเอาไว้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1 คนที่ทำงานแบบเดิมซ้ำไปมา
ซึ่งเป็นงานที่ทำแบบเดิมตลอด ไม่ได้มีการคิดวิเคราะห์อะไรมากนัก และไม่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษอะไร เป็นงานที่ใครก็ทำได้ งานแบบนี้มีโอกาสที่จะโดนแทนที่ด้วยหุ่นยนต์สูงมาก เช่น งานแพคสินค้า การจัดเรียงสินค้าในคลัง เป็นต้น รวมถึงงานอื่น ๆ ด้วยที่ทำแบบเดิม หุ่นยนต์มันก็ทำได้แถมยังไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและยังปรับความเร็วให้คงที่ตลอดได้อีกต่างหาก ส่วนมากจะเป็นงานในโรงงานต่าง ๆ แถมหุ่นยนต์มันไม่เคยเรียกร้องขออะไรเลยด้วย
2 คนที่ทำแต่งานในเวลาที่กำหนด นอกเหนือจากเวลางานไม่มีการเรียนรู้เพิ่มเติม
การคิดว่างานที่เราทำนั้นคงอยู่ตลอดการ บริษัทมันคงจะไม่เจ๊ง เราคงไม่โดนไล่ออก คิดแบบนั้นมันมองโลกเข้าข้างตัวเองไปหน่อย สังเกตให้ดีมีหลายบริษัทมากปิดตัวลอยแพคนงานตัวเองไปเฉย ๆ เลย มันน่าเศร้านะ เราไม่รู้ว่าเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ นานา มันจะเกิดไหมแต่เรามีช่องทางในการหาเงินสำรองหน่อยก็ดีไม่น้อยเลย หาความรู้เพิ่มเติมบ้าง ศึกษาทักษะใหม่ ๆ และพย าย ามปรับตัวให้เข้ากับปัจจุบันด้วย
3 มองอะไรสั้น ๆ ไม่เคยมองถึงอนาคต
มันอาจไม่ใช่เรื่องผิดที่จะมองอะไรระยะสั้น ๆ แต่มันอาจจะทำให้ตัวคุณเองนั้นเดือดร้อนและไม่สามารถจะจัดการเหตุฉุก เฉินที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ เช่น การไม่มีงานเสริมเลย พอตกงานก็ขาดรายได้ หรือการหาเงินมาเท่าไหร่ก็ใช้หมดโดยไม่มีการเก็บไว้เป็นเงินสำรองฉุก เฉินเลย มันก็ทำให้อาจจะต้องเป็นหนี้และลำบากมากในการใช้ชีวิต
4 ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น
ต่อให้เป็นคนที่ชอบทำอะไรคนเดียวแต่มันก็มีหลายอย่ าง หลายสถานการณ์ที่จะต้องทำร่วมกับผู้อื่นถึงจะสำเร็จได้ และบางอย่ างเราก็ต้องพึ่งพาคนอื่นด้วย การพึ่งพากันและกันนั้นจะช่วยให้ก้าวไปได้ไกล แต่ถ้าหากคุณไม่สามารถเข้ากับใครได้เลยมันก็แย่ไม่น้อย มันอาจจะก้าวไปข้างหน้าได้แต่มันจะช้ากว่าคนอื่น ฉะนั้นก็อย่ าลืมเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสังคมให้เป็นด้วย
5 ไม่ยอมลงทุนในตัวเอง
การลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุดก็มีเพียงการลงทุนในตัวเองเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่สนใจ การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และอื่น ๆ ที่เราทำเพื่อตัวเอง มันอาจจะไม่เห็นผลในทันที แต่ในระยะย าวมันเป็นประโยชน์อย่ างมาก อย่ ามัวแต่ลงทุนเพื่ออย่ างอื่นจนลืมตัวเองไป พอเราลงทุนกับตัวเองแล้วบางครั้งในอนาคตสิ่งที่เราลงทุนไปมันอาจส่งผลต่องาน เช่น ไปเรียนภาษาที่ 2 ที่ 3 เพิ่ม อาจทำให้คุณได้ลูกค้าต่างชาติเพิ่ม เป็นต้น
มันไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ดีกว่าตัวเราเองแล้ว ควรจะมองโลกให้มันไกลสักนิดหากมองสั้นไปเราจะลำบากเอาได้ เพราะทุกวันนี้มีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย อย่ าปล่อยให้ตัวเองโดนโลกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะเรื่องงานถ้าไม่ยอมปรับตัวจะอยู่ให้ง่ายเหมือนเดิมมันอาจเป็นไปแทบไม่ได้แล้ว
เรียบเรียงโดย krustory