ทำแชมพูมะกรูดใช้เอง จากธรรมชาติ ใช้แล้วผมดำ ไม่คันศีรษะ
คนสมัยก่อนตั้งแต่โบร่ำโบราณ จะใช้มะกรูดในการสระผม ด้วยคุณสมบัติมีอยู่นั้น ช่วยรั กษ าอาการหนังศีรษะแห้ง บำรุงหนังศีรษะไม่ให้เกิดรังแค ป้องกันความคันบนหนังศีรษะ ทำให้ผมสลวยตรง ดกดำเป็นเงางาม และยังมีความหอมสดชื่นของมะกรูด ที่ทำให้ผมหอมน่าดม ลดปัญหาผมพันกันได้อย่ า งดีเยี่ยม ดังนั้นเราจะนำมะกรูดมาทำแชมพู ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่กล่าวมาทั้งหมด จะกลายเป็นแชมพูจากธรรมชาติที่ดีเยี่ยม
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม
– มะกรูด 1 กิโลกรัม
– ด อ ก อัญชันสด 2-4 ขีด
– ขิงแก่สด 2 ขีด
– น้ำสะอาด
วิธีการทำแชมพูมะกรูด
1 ล้างวัตถุดิบทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้สะอาด จากนั้นนำเอาขิง และมะกรูดมาหั่นเป็นแว่น ความบางพอประมาณ
2 นำส่วนผสมที่ได้เตรียมไว้แล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด อ ก อัญชัน ขิงและมะกรูดหั่นแว่น ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำลงไปให้ท่วมส่วนผสม นำไปตั้งไฟให้เดือด
3 จากนั้นปรับไฟเป็นไฟอ่อน แล้วค่อยๆเคี่ยวไปอย่ า ให้ส่วนผสมไหม้ติดหม้อ เคี่ยวไปเรื่อยๆจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะเปื่อย เมื่อเคี่ยวจนได้ที่แล้ว ก็ยกลงมาพักไว้ให้หายร้อน จากนั้นนำผ้าขาวบางมากรองส่วนผสมที่ได้ ให้เหลือไว้แต่น้ำ นำมากรอกใส่ขวดเอาไว้ ถนอมให้ใช้งานได้นานขึ้นโดยการเก็บแช่ตู้เย็น
วิธีการใช้งาน
นำส่วนผสมของแชมพูมะกรูดที่ได้ มาผสมกับเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ให้ปริมาณที่ผสมมากพอสำหรับการสระ 1 ครั้ง เบกกิ้งโซดาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแชมพูมะกรูดให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ส่วนผสมแต่ละอย่ า งดีอย่ า งไร
มะกรูด จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าเป็นสิ่งที่คนสมัยก่อนใช้ในการสระผมมาช้านาน เพราะช่วยบรรเทาอาการคันหนังศีรษะ ผมเงางามมีสุขภาพดี เหยียดตรงนุ่มสลวยมีน้ำหนัก
อัญชัน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเ ลื อ ด ในส่วนของศีรษะ ผมดำเป็นเงางามมากขึ้น ทำให้ผมแข็งแรงไม่ขาด หรือหลุดร่วงง่าย และช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม จึงทำให้ผมดูหนาไม่บางมากจนเกินไป
ขิง ช่วยให้ความแข็งแรงงแก่เส้นผมที่งอกใหม่ เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง
สูตรแชมพูที่ได้จากธรรมชาติ โดยไม่ผสมส า ร เคมีใดใด เมื่อใช้เป็นประจำ จะทำให้ผมแข็งแรง ดกดำอย่ า งเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งส า ร เคมีตกค้างใดใดเลย สามารถนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้ หรือจะทำออกมาขายเพื่อสร้างรายได้ก็ดี ส่วนประกอบที่ใช้ก็ไม่ได้มีราคามากมาย ปลูกเองก็ได้ด้วยซ้ำ เราจึงสามารถทำได้ปริมาณมากเท่าที่ต้องการ และใช้สระได้เป็นประจำทุกวัน
ขอขอบคุณที่มา Panyacheewit
