Home ข่าวทั่วไป ก้อนเมฆกับต้นไม้แก่ นิทานสอนใจ เรื่องนี้อ่านกี่ครั้งก็ชอบ

ก้อนเมฆกับต้นไม้แก่ นิทานสอนใจ เรื่องนี้อ่านกี่ครั้งก็ชอบ

ก้อนเมฆกับต้นไม้แก่ นิทานสอนใจ เรื่องนี้อ่านกี่ครั้งก็ชอบ

ก้อนเมฆกับต้นไม้แก่ นิทานสอนใจ เรื่องนี้อ่านกี่ครั้งก็ชอบ

การดำเนินชีวิตปัจจุบันที่เร่งรีบ ต้องคอยแข่งกับเวลา หลายชีวิตต้องอยู่ต่างบ้านเพื่อดิ้นรนทำงาน ทุ่มเททั้งกำลังแรงกายแรงใจเพื่อหวังให้ทางบ้านมีฐานะ และชีวิตที่ดีขึ้น จนทำให้หลงลืมสื่งสำคัญหลายสิ่งหลายอ ย่ า งไป ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดู แล้วค้นหาดูว่าสิ่งที่ลืมไปนั้นสำคัญมากเท่าไหร่

เรื่องมีอยู่ว่า มีต้นไม้แก่ได้ “ร้องขอน้ำฝน” จากเมฆน้อย แต่ด้วยความที่เมฆน้อยกลัวว่าต้นไม้แก่จะได้รับน้ำฝนไม่พอให้หายกระหาย จึงตอบกลับไปว่า “น้ำฝนมีอยู่น้อย”

วันต่อมา ต้นไม้แก่ก็ยังร้องขออยู่อ ย่ า งนั้น แต่เจ้าเมฆน้อยก็ยังยืนยันคำตอบเดิม ว่ายังไม่พร้อมที่จะให้เพราะยังมีน้ำอยู่น้อยมาก แต่ด้วยความที่เจ้าเมฆน้อยอ ย า กมีน้ำเพียงพอเพื่อต้นไม้แก่เสียเหลือเกิน เมฆน้อยจึงตัดสินใจออกเดินทาง เพื่อเก็บออมน้ำฝนให้ได้มากพอที่จะเป็นความชุ่มชื่นใจให้ต้นไม้แก่

เมื่อถึงวันที่เมฆน้อยเก็บสะสมน้ำจนได้ปริมาณที่เพียงพอแล้ว จึงออกเดินทางกลับไปหาต้นไม้แก่เพื่อจะนำน้ำที่ได้ไปให้ แต่อนิจจาเจ้าเมฆน้อยได้กลับไปพบว่า “ต้นไม้แก่ได้กลายเป็นซากแห้งเหี่ยว” ไปเสียแล้ว

เมฆน้อยได้แต่ร้องไห้ และพร่ำตัดพ้อต่อตนเองว่า “ทำไม..ความพ ย า ย า มของฉันนั้น ไม่มีค่าเลยหรือ”

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ได้ยินเข้า จึงได้แหงนมองและบอกกับเจ้าเมฆน้อยไปว่า “การที่เราจะให้อะไรแก่คนที่เรารัก ไม่จำเป็นต้องรอให้มีมากพอหรอก ให้เท่าที่มีให้ ก็เพียงพอและชื่นใจแล้วสำหรับคนที่ได้รับ”

แม้ความพ ย า ย า มทำเพื่อคนที่เรารักนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่มันก็มีเงื่อนไขที่เข้ามาเสมอ อ ย่ า รอให้มีพร้อมแล้วค่อยมอบให้กับคนที่เรารัก เพราะไม่มีใครหนีพ้นเงื่อนไขของเวลาได้ เขาฝากบอกเธอว่า “เขารักเธอมากนะ”

เมื่อเมฆน้อยได้ยินดังนั้นก็ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาอีกครั้ง แม้จะกลั่นออกมาเป็นเม็ดฝนสักเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำให้ต้นไม้ที่กลายเป็นซาก ได้ดูดซับเพื่อจะแตกใบและเจริญเติบโตได้อีกครั้ง ใช่แล้วเจ้าเมฆน้อยได้สูญเสียต้นไม้แก่ไปตลอดกาล

อ่านจบแล้ว ได้อะไรบ้าง…

แม้ทุกวันนี้เราจะทำงานหนักจนมีรายได้สูง แต่คนก็มีศืลธรรมที่แย่ลง

อาศัยอยู่บนตึกสูง แต่ความอดทนอดกลั้นกลับน้อยลง

มีบ้านหลังใหญ่ขึ้น แต่ก็มีครอบครัวที่เล็กลง

สามารถใช้การสื่อ ส าร ตามช่องทางต่างๆได้มากขึ้น แต่ความเข้าใจซึ่งกันและกันกลับลดลง

มี ย า ใหม่ๆที่ใช้ รั กษ า โ ร คได้ดีมากขึ้น แต่สุขภาพร่างกายกลับแย่ลง

เดินทางไกลได้สะดวกและง่ายมากขึ้น แต่ก็ลืมที่จะทักทายกับเพื่อนบ้าน หรือคนใกล้ตัว

ดังนั้นอ ย่ า มัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง อ ย า กทำอะไรก็ควรทำเสียตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษถึงจะเป็นผู้ให้ เพราะเราสามารถมอบความรักความเข้าใจให้กับคนรอบข้างได้ทุกวัน

อ ย่ า มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน มองออกไปนอกหน้าต่างบ้าง พักจิบกาแฟทำใจให้สบาย ฟังเพลงเบาๆ ทานอาหารอร่อยๆ มีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น สังสรรค์เฮฮากับเพื่อฝูงให้สนุกสนาน ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เต็มที่ และมอบความสุขที่ได้ให้กับคนรอบข้าง จะทำให้รู้สึกภูมิใจกับการได้มีชีวิตอยู่ และใช้ชีวิตได้อ ย่ า งมีความสุข

เงื่อนไขของเวลาไม่มีใครที่จะขัดขวางได้ เราต้องทำทุกอ ย่ า งภายใต้เงื่อนไขนั้นให้ดีที่สุด สิ่งที่ง่ายมากนั่นก็คือ การได้บอกรัก มอบความรักแก่กันเสียตั้งแต่วันนี้ ก๋อนคนสำคัญของคุณจะไม่อยู่ให้บอกรัก

ขอขอบคุณที่มา Postsabaidee

 

Load More Related Articles
Load More By Krustory-Po
Load More In ข่าวทั่วไป

Check Also

สูตรน้ำอัญชัญ มะนาว โซดา ดื่มช่วยบำรุงสายตา แก้ตาฝ้าฟาง กระตุ้นการไหลเวียน

สูตรน้ำอัญชัญ มะนาว โซดา ดื่มช่วยบำรุงสายตา แก้ตาฝ้าฟาง … …