การโอนและรับโอนมรดกที่ดิน เมื่อเจ้าของจากไปแล้ว ทาย า ทควรรู้ไว้
โฉนดที่ดินถือเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ ได้อย่ า งมหาศาล สามารถหากำไรจากที่ดินได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าจะเก็บไว้เพื่อเกร็งกำไร เพราะเวลาผ่ า นไปราคาที่ดินมีแต่ขึ้นไม่มีลง
หรือจะลงทุนทำสวนทำไร่ ก็จะเป็นอาชีพที่อยู่ไปได้จนสุดบั้นปลายชีวิต หรือจะสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อนอนกินค่าเช่า เช่น หอพัก อพาร์ทเม้นท์ และโรงแรม ก็ย่อมได้
ยิ่งมีสิ่งปลูกสร้าง ยิ่งได้กำไรงามนักเวลาขาย จึงมีการลงทุนซื้อที่ดินเก็บไว้เป็นทรัพย์สินในครอบครองกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นมรดกที่ดีสืบลูกสืบหลานต่อไป
โดยมีเพจทางเฟสบุ๊ค สายตรงกฎหมาย โดยทนายรัชพล ศิริสาคร
ได้โพสให้ข้อมูลเกี่ยวกับมรดกที่ดินไว้ว่า
เมื่อมีคนต า ย มรดกย่อมตกทอดแก่ทาย า ท ถ้าเป็นทรัพย์สินเล็กๆน้อยๆ ก็จัดสรรปันส่วนได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นพวกที่ดินบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ใดๆ ที่ต้องไปจดทะเบียน ก็อาจจะยุ่งย า กหน่อย วันนี้เรามาดูกันเรื่องการรับมรดกที่ดินคร่าวๆ
มรดกที่ดิน เมื่อมีคนต า ย ทาย า ทจะรับมรดก อาจทำได้ 2 วิธี จูงมือทาย า ทกันไป โอนที่สำนักงานที่ดิน และอีกวิธีนึงคือตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งต้องไปขึ้นศาล
การโอนมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดิน
1 นำหลักฐานสิทธิมนที่ดินไป เช่น โฉนดที่ดิน
2 หลักฐานการต า ย เช่น มรณะบัตร
3 หลักฐานการเป็นผู้มีสิทธิรับมรดก เช่น เป็นลูก เป็นภรรย า พินัย กร รม
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเชื่อว่าผู้ขอเป็นทาย า ทมีสิทธิรับมรดกตามที่ขอแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการประกาศมรดกมีกำหนด 30 วัน แล้วก็จดทะเบียนให้ถ้าไม่มีคัดค้าน จริงๆ มันมีรายละเอียดมาก ยังไงลองติดต่อสำนักงานที่ดินเพื่อสอบถามรายละเอียด
ส่วนการโอนที่ดินโดยตั้งผู้จัดการมรดก สามารถทำได้
1 ให้ทาย า ทร้องขอต่อศาลให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก สามารถทำได้
2 จะมีการจดทะเบียนผู้จัดการมรดก
3 หลังจากนั้น ผู้จัดการมรดก ก็ไปจดทะเบียนได้เลย เจ้าหน้าที่ก็จะรับจดทะเบียนให้
ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริง ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าจะโอนที่ดิน ยังไงก็ต้องทำตามขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป…
ทนายรัชพล ศิริสาคร
ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
เพจ สายตรงกฎหมาย ยึดมั่นความยุติธรรม
โทร 0957563521
เพจนี้ยังมีการโพสทำงานอยู่ ณ ปัจจุบัน สามารถเข้าไปปรึกษาปัญหาทางด้านกฎหมายได้ทางอินบ็อกซ์
หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีส่วนได้ส่วนเสียแล้ว เราควรศึกษาให้รอบคอบก่อน เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่บอบบางและมีช่องโหว่มาก
ดังนั้นก่อนที่เราจะกระทำการสิ่งใด เราควรศึกษาข้อมูลต่างๆก่อนให้ถี่ถ้วน หรือหากเป็นเรื่องใหญ่ก็แต่งตั้งทนายขึ้นมารับผิดชอบแทนไปเลยจะดีกว่า เสียน้อยยังดีกว่าเสียมาก
ขอขอบคุณที่มา poobpub ,ทนายรัชพล ศิริสาคร Fanpage