9 สิ่งที่ควรเลิกทำ ก่อนเข้านอน หากรักตัวเอง
การนอนเป็นการพักผ่อนร่างกายและ ส ม อ ง ได้ดีที่สุด แม้เราจะใช้งานมันหนักเพียงไหน หากพักผ่อนนอนหลับได้อ ย่ า งเพียงพอและมีคุณภาพ พอตื่นมาเราจะได้รับความสดชื่นจากการบูทพลังงานมาแล้วทั้งคืน อีกทั้งการนอนที่ดีนั้นยังทำให้อวัยวะภายในร่างกายกลับมาทำงานได้อ ย่ า งเป็นปกติ สร้างภูมิคุ้มกันต่อ โ ร ค ต่างๆได้มาก และที่สำคัญยังทำให้หน้าตา ผิวพรรณดูสดใสอีกด้วย
1 รัปประทานอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์
แน่นอนว่าหากรับประทานอะไรหนักๆก่อนเข้านอน จะทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยทำงาน เพราะในช่วงระหว่างนอนนั้น ระบบในร่างกายจะทำการฟื้นฟูตัวเอง มากกว่าต้องมาทำงานหนัก ซึ่งจัดได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ระบบย่อยทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ระบบการเผาผลาญไขมันบกพร่องตามไปด้วย สุดท้ายส่งผลให้เป็น โ ร ค ต่างๆ รวมถึงหลอดเ ลื o ด อุดตันอีกด้วย
2 อาบน้ำเย็นๆก่อนเข้านอน
มีหลายคนเข้าใจว่าการอาบน้ำเย็นๆก่อนเข้านอนนั้น จะทำให้เรานอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการคลายความร้อน แต่อ ย่ า ลืมว่าในช่วงเวลาหลัง 3 ทุ่มเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน การอาบน้ำเย็นนั้นจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว อาจเป็นปัญหาทำให้นอนไม่หลับ และนอนดึกมากยิ่งขึ้น
3 นำงานกลับมาทำต่อที่บ้าน
ช่วงเวลาทำงานในแต่ละวันมีมากพอที่เราจะสามารถสะสางงานต่างๆได้มากพอแล้ว การหอบงานกลับมาทำที่บ้านด้วยนั้น จะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมของความเครียดก่อนเข้านอน ดังนั้น เมื่อหมดเวลาทำงาน ก็ควรกลับบ้านมาเพื่อพักผ่อนจะดีกว่า เวลานอนในแต่ละวันนั้นมีไม่มาก บางครั้งไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายด้วยซ้ำ เราจึงควรให้ความสำคัญกับการนอนหากเรายังรักตัวเองอยู่
4 หัดงีบหลับในช่วงเวลากลางวันบ้าง
ช่วงเวลากลางวันนั้น เราควรหาเวลาเพื่องีบหลับระหว่างวันประมาณ 20 นาทีก็เพียงพอ เพื่อให้ ส ม อ ง ได้พักผ่อนบ้าง เมื่อตื่นขึ้นมาคุณจะรู้สึกโล่ง และสดชื่นยิ่งขึ้น ทำให้มีแรงรับมือกับงานตรงหน้าได้มากขึ้น แต่อ ย่ า นอนนานจนเกินไป เพราะจะทำให้เมื่อตื่นมาจะรู้สึกมึนหัว อ่อนเพลีย และพอตกเวลากลางคืน จะทำให้เรานอนไม่หลับ พักผ่อนได้ไม่เพียงพอ
5 ไม่สวมใส่นาฬิกาในขณะนอนหลับ
เพราะเสียงของนาฬิกา การสั่น หรือแม้กระทั่งการเรืองแสงของลายน้ำ จะเป็นตัวรบกวนการนอนของเราตลอดระยะเวลา 6-8 ชั่ ว โมงนั้น อีกทั้งยังทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวเหมือนมีอะไรเกาะอยู่ที่แขน บางครั้งเมื่อกำลังนอนหลับสนิท นาฬิกาอาจไปเกี่ยวผ้าห่ม หมอนข้าง หรืออะไรก็ตามทำให้เราสะดุ้งตื่นกลางดึก ดังนั้นเราควรถอดนาฬิกาทุกครั้งในเวลาเข้านอนจะดีกว่า
6 ไม่ใ ส่ชุ ด ชั้ นใ น น อน
ถ้าสังเกตชุดนอนแต่ละแบรนด์ที่ออกแบบมา เราจะเห็นได้ว่าชุดนอนจะตัวโคร่งๆ สวมใส่แล้วสบายตัว เนื้อผ้าจะโปร่ง ทำให้ไม่ระคายเคืองระหว่างนอน ดังนั้นการใส่ชุดชั้นในที่แนบกระชับไปเสียทุกสัดส่วนนั้น จะเป็นการรบกวนการนอนอ ย่ า งยิ่ง อีกทั้งยังมีผลวิจัยออกมาแล้วว่า หากเราใส่ชุดชั้นในเกิน 12 ชั่ ว โมง จะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็น โ ร ค ม ะ เ ร็ งได้ เราจึงควรใส่เพียงชุดนอนสบายๆ หลวมๆในเวลานอนก็พอ
7 นอนหลับพักผ่อนไม่ตรงเวลา
เพราะทุกครั้งที่เราตื่นและเข้านอน ร่างกายเราจะจดจำช่วงเวานั้นไว้ จะสังเกตได้จากหากเราตื่น 7 โมงเช้าเป็นประจำ บางครั้งนาฬิกายังไม่ทันปลุก เราก็ตื่นขึ้นมาเองด้วยความเคยชิน แต่หากเรานอนไม่เป็นเวลา ร่างกายที่จดจำเวลานอนของเราเอาไว้ พอถึงเวลาก็จะรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย แต่หากไม่ได้รับการพักผ่อนในเวลานั้น จะทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน เมื่อเราเข้านอนผิดเวลา อาจทำให้นอนไม่หลับ เพราะร่างกายต่อต้านว่าไม่ใช่เวลานอน หรือทำให้เวลานอนหลับไปแล้ว เกิดสะดุ้งตื่นได้โดยง่าย ส่งผลไปถึงสุขภาพร่างกาย ป่วยง่าย ไม่แข็งแรง
8 เล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน
เชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนทำกันอยู่แน่นอน เพราะโทรศัพท์มือถือเป็นเหมือนอวัยวะหนึ่งของร่างกายไปแล้ว เวลาไปไหนทำอะไรต้องมีติดตัวไว้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลานอนยังเอามาไว้ข้างๆใกล้ๆตัว เมื่อตื่นนอนมาสิ่งแรกก็จะหยิบโทรศัพท์มือถือมาเช็คดู ก่อนเข้านอนก็จะเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่เสมอ ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าแสงสีฟ้าที่สะท้อนมาจากโทรศัพท์มือถือ จะทำอั นต รา ยต่อสายตาและระบบประสาท จึงส่งผลให้เรานอนไม่ค่อยหลับ หากเราเสพข่าว ส า ร ลบๆก่อนเข้านอน ก็จะทำให้เราเก็บเอาไปฝันร้ า ย เกิดความเครียดในระหว่างนอนหลับ ส่งผลถึงระบบ ส ม อ ง และจิตใต้สำนึกได้โดยตรง
9 ดื่มน้ำให้พอดีและเพียงพอ
ก่อนเข้านอนเราควรดื่มน้ำให้พอดี อ ย่ า ดื่มมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เราตื่นมาเข้าห้องน้ำบ่อยๆ การนอนหลับจึงไม่ต่อเนื่อง บางคนตื่นแล้วนอนหลับย า ก แล้วคืนๆหนึ่งเราต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำสักกี่หน แต่ก็ไม่ควรดื่มน้ำน้อยเกินไป เพราะไม่เป็นผลดีกับการขับถ่ายของเสียในช่วงเช้า ทางที่ดีควรดื่มน้ำประมาณ 1 แก้ว และให้เป็นน้ำอุ่นหรือน้ำตามอุณหภูมิห้อง จะทำให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
ร่างกายเมื่อใช้มามากเพียงพอแล้ว ก็ต้องรู้จักทะนุถนอม พักผ่อนเอาแรง อ ย่ า ใช้ร่างกายให้หักโหมมากจนเกินไปนัก เพราะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ยิ่งถ้าอายุ 30 ขึ้นไปละก็ ควรพักผ่อนให้เพียงพอมากๆ อ ย่ า งน้อยวันละ 6-8 ชั่ ว โมง เพื่อให้ ส ม อ ง และร่างกายได้ซ่อมแซมตัวมันเองบ้าง อ ย่ า ทำ ร้ าย มันนักเลย ไม่คุ้มหรอก
ขอขอบคุณที่มา poobpub
