ผ้าเช็ดตัวกลิ่นอับ ซักให้สะอาดต้องใช้สูตรนี้ หอมเร็วมาก แม่บ้านต้องรู้ไว้
ผ้าขน ห นูหรือผ้าเช็ดตัวกับผ้าเช็ดหน้าที่หอมนุ่มขาวสะอาด เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวผืนใหม่บ่อยๆ เพียงแค่ผืนเดียวแต่เลือกผ้าที่มีคุณภาพและใช้วิธีการซักแบบพิเศษที่จะช่วยให้ผ้าขนห นูยิ่งใช้ยิ่งหอมยิ่งนุ่มได้เหมือนผ้าเช็ดตัวตามโรงแรมหรูๆได้ มีหลายวิธีให้เลือกใช้กัน แม่บ้านทั้งหลายเซฟเก็บไว้ได้เลย
ผ้าเช็ดตัวที่เราใช้ซับน้ำหลังการอาบน้ำทุกครั้งตลอดเช้าเย็น เมื่อผ้าเช็ดตัวเปียกไม่ได้นำไปตากแดดนอกบ้านบ้าง ก็จะทำให้ผ้ากลายเป็นที่สะสมของ เ ชื้ อ โ รค และยังมีกลิ่นเหม็นอับอีกด้วย ส่วนใหญ่เมื่อผ้าเช็ดตัวเริ่มเก่าก็มักจะทิ้งหรือใช้เป็นผ้าเช็ดเท้า และต้องคอยซื้อใหม่อยู่เรื่อยๆ
วันนี้เรามีวิธีการที่จะทำความสะอาดผ้าขน ห นู ของเราให้สะอาดแบบล้ำลึก โดยที่รั ก ษ าเนื้อผ้านุ่มๆเอาไว้ ช่วยให้ซับน้ำได้ดีขึ้นพร้อมกลิ่นหอมสะอาดปลอดจากกลิ่นอับอีกต่อไปไม่ว่าจะใช้งานเยอะแค่ไหนก็สามารถทำให้ผ้ากลับมาขาวนุ่มหอมเหมือนใหม่เสมอ
1 ซักผ้าเช็ดตัวให้หอนนุ่มสะอาด
-เตรียมการซักผ้าข น ห นู ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าเช็ดผม เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย และน้ำส้มสายชูอีก 1 ถ้วย นำมาซักในเครื่องซักผ้าตามปกติ แต่ให้ใช้ เบกกิ้งโซดา เพิ่มลงไปด้วย 1 ถ้วย
-ในการซักน้ำสุดท้ายที่ปกติจะใส่น้ำย าปรับผ้านุ่ม ให้เราใช้ น้ำส้มสายชู แทน จะช่วยให้เส้นใยผ้าขนห นูอ่อนนุ่ม สะอาดและไม่เกิดกลิ่นอับ
-ตอนเครื่องซักผ้าปล่อยน้ำซักครั้งสุดท้ายแล้ว กำลังจะเข้าโหมดปั่นแห้ง ให้เราทำการหยุดการทำงานของเครื่องก่อน แล้วนำผ้าขนห นูขึ้นมาสะบัดแรงๆ ซ้ำหลายๆครั้ง เพื่อช่วยให้เส้นใยของผ้าพองฟูขึ้นเต็มที่
– จากนั้นนำกลับลงเครื่องแล้วแช่ผ้าด้วยน้ำย าปรับผ้านุ่มตามปกติ จึงนำขึ้นตากให้แห้งสนิท โดยให้สะบัดผ้าขนห นูซ้ำอีกหลายๆ
-ก่อนนำตากแดดให้แห้งพอดี ไม่ตากนานเกินไปอาจทำให้ผ้าแข็งเพราะโดนความร้อนจัด การซักผ้าขนห นูให้นุ่มนานๆตามคุณภาพของผ้าแล้ว เพียงนำไปผึ่งแดดอ่อนๆ สักครึ่งวัน ไม่ต้องรอให้แห้งจนเกินไป ก็สามารถนำมาใช้ได้เลย
ผ้าเช็ดตัว
ควรซักสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะหลังอาบน้ำผ้าขนห นู ที่เราใช้เช็ดตัวทุกวันจะสะสมคราบไขมันหรือเซลล์ผิวที่ตายออก ติดอยู่กับผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเช็ดหน้า โดยหลังจากที่ใช้ผ้าไปประมาณ 6 ครั้งก็ควรที่จะซักทำความสะอาดเพื่อป้องกันการก่อตัวสะสมของเ ชื้ อ แ บ คที เ รี ยต่างๆ หากนำมาใช้ซ้ำนานๆก็จะมีโอกาสเกิดสิวหรือเกิด โ ร คผิวหนังบางชนิดกับคนที่ผิวบอบบางได้
ผ้าปูที่นอน
ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่ต้องทำความสะอาดเป็นประจำทุกสัปดาห์ แม้ว่าผ้าจะดูไม่เลอะไม่มีรอยแต่จะมีเซลล์ผิวหนังที่อยู่ในร่างกายของเราอยู่ จึงต้องทำความสะอาดบ่อยๆ โดยเฉพาะคนที่เป็นโร ค ภู มิ แพ้ โดยการทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนอ ย่ า งน้อย 60 องศาเซลเซียส ตากแดดแรง และนำมารีดเพื่อใช้ความร้อน ฆ่ า เ ชื้ อ ซ้ำอีกครั้ง โดยหากใช้เตารีดไอน้ำก็จะดีกับผ้ามากกว่าเพราะจะช่วยรั ก ษ าเส้นใยผ้าปูที่นอนเอาไว้ให้คงความใหม่เอาไว้ได้นาน
ฟูกที่นอน
เพื่อสุขอนามัยที่ดี การป้องกันไรฝุ่นไม่ให้เกิดขึ้น จึงควรทำความสะอาดฟูกนอนอย่ างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นจัดการกับเศษฝุ่นละอองที่เรามองไม่เห็นด้วย
หากการยกฟูกไปตากแดดนั้นไม่สามารถทำได้ ก็สามารถซักรอยเปื้อนที่เกิดขึ้นด้วยการใช้ เบกกิ้งโซดา เทลงให้ทั่วฟูกนอนแล้วทิ้งเอาไว้อย่ างน้อย 1 ชั่ วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดผงเบกกิ้งโซดาพร้อมกับฝุ่นออกให้หมด เพียงเท่านี้ฟูกนอนก็จะอาดและไม่เกิดกลิ่นอับ ไม่ก่อให้เกิดส า ร ก ร ะตุ้ น การเกิดภู มิ แ พ้ ด้วย
ปลอกหมอน
เช่นเดียวกับผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนอาจซักบ่อยกว่าก็ได้เพราะผิวหน้าของเราสัมผัสโดยตรงกับปลอกหมอนทุกวัน หากไม่ซักบ่อยๆ ก็อาจทำให้เกิดสิวหรือผดผื่นบนใบหน้าได้ ดังนั้นจึงควรซักเป็นประจำเพื่อกำจั ด เ ชื้ อแ บ ค ที เรี ยต่างๆ
ทั้งหมดนี้เป็นทิปการทำงานบ้านง่ายๆที่จะช่วยให้คุณภาพในการนอนของเราและสมาชิกในครอบครัวปลอดภั ยจาก เ ชื้ อต่างๆที่ห มั กหมม จนเกิดกลิ่นอับ หรือทำให้คนที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่นอาการแย่ลงได้ จึงต้องควรใส่ใจเรื่องที่นอนเป็นพิเศษโดยเฉพาะในบ้านที่มี เ ด็ กเล็กที่มีผิวบอบบาง
เรียบเรียงโดย krustory